dune พากย์ไทย ถ้าหากจะกล่าวถึงหนังในยุคนี้ที่ก็คงมากมายไปด้วยแนวพล็อตซุปเปอร์วีรบุรุษทุนดกหรือหนังแนวเสี่ยงภัยวิจิตรตระการตาๆและก็ที่ขาดไปมิได้อย่างหนังสยองขวัญไอเดียที่สุดยอดกันหมดในความนึกคิดแรกๆที่คิดและก็มองเห็นอยู่หลายครั้งตา แม้กระนั้นถ้าเกิดกล่าวถึงหนังแนวไซไฟคะๆแบบเต็มกำลังในยุคนี้ที่พอเพียงจะจำได้ก็น่าจะมีเพียงแค่ Dune ผลงานของผู้กำกับ เดอนี วีลเนิฟว์ ผู้กำกับมากมายวิสัยทัศน์ที่มักเคลื่อนตัวภาพยนตร์ของเขาให้แจ่มแจ้งในทางความเป็นภาพยนตร์แบบคะๆด้วยแนวทางงานภาพ มุมกล้องถ่ายรูป กระจ่างแจ้งเป็นลายเส้นมาตั้งแต่เรื่อง Blade Runner 2049 หรือ Arrival ท่ามกลางโรคระบาดและก็สมัยหนังไซไฟที่มิได้ทำเงินครึ้มรวมทั้งกระแสแรงเท่ามหากาพย์ไซไฟเปิดโลกภาพยนตร์อย่าง Star Wars ก็กำเนิดปรากฎการณ์ในปี 2021 Dune ฟีเวอร์ขึ้นด้วยทุนสร้างที่สูงแล้วก็การเสี่ยงครึ้มตัวหนังยังสามารถปัดกวาดข้อคิดเห็นดีเยี่ยมที่สุดรวมทั้งรายได้ผ่านจุดคุ้มทันกระทั่งกำเนิดเป็นกระแสในคราวหลังข้างหลังหนังลาโรงและก็แวดวงภาพยนตร์ก็กลับไปสู่เรื่องธรรมดาข้างหลังวัววิดหยุดระบาดเป็นเสียงชื่นชอบจากชาวเน็ตที่ได้ได้โอกาสมองคราวหลังรวมทั้งเสียดายที่พลาดไปจนกระทั่งการรอสิ้นสุดลงการกลับมาของหนังภาคต่อที่เลื่อนจากท้ายปี 2023 มาต้นปี 2024 ที่ท้ายที่สุดพวกเราก็ได้ดูกันแล้วที่ถึงแม้ว่าจะพึ่งเข้าโรงแม้กระนั้นผู้กำกับก็ค่อนจะรับรองว่าบทในส่วนภาคสามได้ปฏิบัติงานจวนใกล้เสร็จแล้ก็เลยยิ่งเพิ่มความระทึกใจสำหรับเพื่อการขยายจักรวาลที่ไซไฟนี้เพิ่มเท่าตัว
dune พากย์ไทย กล่าวถึงเรื่องราวที่ต่อจากภาคก่อนของมอง
เมื่อ พอล และก็ เฟรแมน เริ่มเดินทางปลุกระดมกำลังพลกลางทางเพื่อหวังยืนขึ้นประมือปลดแอ็คจากการเช็ดกเอารัดเอาเปรียบและก็ล้างแค้นผู้ที่ทำกับเครือญาติ อะเทรติส อย่าง ฮาร์คอนเนน และก็เข้าต่อรองกล่าวโทษเป็นธรรมกับจักรวรรดิชั้นสูงเพื่อเลิกเรื่องราวระหว่างดวงดาว
ความรู้สึกข้างหลังดูจบในความยาวเกือบจะสามชั่วโมงเสมือนผู้กำกับแล้วก็ตัวหนังได้ลากผู้ชมทั้งยังโรงเข้าไปในดวงดาวที่ทะเลทรายได้เหมือนจริงและก็ดื่มดำบรรยากาศได้ชั้นนำมากมายๆจนกระทั่งเชื่อวางใจว่าโลกรวมทั้งวัฒนธรรมของพวกเขามีจริงทรงขลังทรงอำนาจ ในภาคนี้ยังคงขยายเรื่องวัฒนธรรมต่อยอดจากภาคแรกได้อย่างดิบดีแล้วก็มองเห็นมิติเยอะขึ้นกว่าเคย ทั้งยังฝั่งทรายของเฟรแมน แล้วก็ฝั่งบ้านเครือญาติ ฮาร์คอนเนน รวมทั้งฝั่งพระราชาธิราช มิได้เล่ามุมมองเดียวแบบครั้งก่อนช่วยสนับสนุนเพิ่มมิติแต่ละผู้แสดงให้พวกเรารู้เรื่องหลากมุมเหเหม็นตุผลมุมมองจนถึงแปลงเป็นหนังการบ้านการเมืองไซไฟชั้นหนึ่งอีกหัวข้อที่น่าดึงดูดตั้งแต่จนกระทั่งจบได้อย่างพอใช้
ด้วยการแสดงของผู้แสดงหลากหลายชั้นแนวหน้าของแวดวงฮอลลีวูดอีกทั้งหน้าที่ใหม่และก็เก่าที่ยังสามารถส่วมหน้าที่ได้ดิบได้ดีตามสไตล์พวกเขาแม้กระนั้นม้ามืดเจิดสว่างท่ามกลางผู้แสดงมวลมากมายหลากความสามารถคงเป็น เซ็นดาย่า และก็ ฟลอเรนซ์ พิว ที่ต่างคนต่างเป็นตัวแปร ด้านเซ็นดาย่านักแสดงหลักมีหน้าที่มากขึ้นในภาคนี้ที่แสดงดีหน้าชัดแจ้งแล้วก็เชิญชวนอินตามหนังได้อย่างยอดเยี่ยม เหมือนกับเดียวกับ ฟลอเรนซ์ พิว ที่ถึงแม้อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีเครื่องปรับอากาศไทม์ไม่เท่าเซ็นดาย่าแม้กระนั้นก็เป็นตัวแปรสำคัญที่พอเพียงขึ้นจอกรับส่งปฏิบัติหน้าที่ของคุณเองเจริญ แล้วก็ดาราหนังผู้อื่นที่ก็ส่องแสงทุกหนเมื่อกล้องถ่ายรูปได้จับพวกเขามีเวลาปรากฎบนหน้าจอ dune พากย์ไทย
จะไม่เคลิ้มตามขนาดนี้ถ้าเกิดไม่ได้ไปทำงานภาพ แล้วก็ งานสร้าง ที่โคตรตระการตารวมทั้งน่าจะเป็นงานสร้างหนังเรื่องหนึ่งที่ขึ้นหิ้งในตอนยุคนี้อย่างยิ่งจริงๆ งานภาพเสมือนภาพวาดที่มีชีวิต น่าคลั่งไคล้ รวมทั้งงามเพลินตาในทุกเฟรมที่กล้องถ่ายรูปสัมผัสตัวอย่างเช่นเดียวงานสร้างที่งามเหมือนจริงกว่าคราวก่อนเท่าตัวมากมายๆและก็ช่วยสนับสนุนเรื่องราวให้มองทรงประสิทธิภาพตามธีมเรื่องความเลื่อมใสสำหรับเพื่อการปลุกระดมสำหรับการสู้รบสุดแสนไซไฟได้อย่างพอดิบพอดีเหมาะเหม็ง แถมด้วยงานเสียงอีกทั้งดนตรีประกอบฉาก เสียงเอฟเฟคในเรื่องออกมาดูดี ติดหู รวมทั้งใช้งานควบคุมได้ดิบได้ดีมากมายๆกับระบบ IMAX ระบบที่ดินตัวหนังวางแบบถ่ายทำเพื่อต้องการให้ได้อรรถรสสุดกำลังมากมายสุดเมื่อได้ดูหนังหัวข้อนี้
เสริมกองทัพด้วยตัวบทที่ยังคงแบบอย่างเดิมสำหรับในการเล่า ย่อยช้าๆไปอย่างสวยๆ
แบบภาคก่อนที่จะตอนนี้จะเป็นการเซ็ตติ้งฝั่งการยืนขึ้นขึ้นมาประมือของ อะเทความชอบใจส ที่เริ่มไล่เล่าอย่างสมบูรณ์เก็บทุกเม็ดอย่างถี่ถ้วนจนกระทั่งสามารถนำส่วนประกอบการเบาๆอธิบายช้าๆกริ้วโกรธเบิดระเบ้อพีคสุดปรอทได้โอเคในตอนผลสรุปด้วยฉากแอ็คชั่นสุดตระการตาแบบหนังสงครามฟอร์มยักษ์ที่เคยได้เห็นมานักต่อนัก ที่ใช้วัถเหม็นตุดิบเรื่องราวในโลกตนเองได้ครบแล้วก็สมใจผู้ชมก้าวหน้ามากมายๆอย่างจะต้องเป็นได้ดิบได้ดีแถมยังต่อยาอดสำหรับเพื่อการขยายจักรวาลมองนก้าวหน้าอีกขึ้นด้วย
มีดีมากมายก็ควรมีเสียดายบางส่วนปกติด้วยตัวหนังที่นานแทบถึงสามชั่วโมงที่ใช้เวลาไปสำหรับเพื่อการปูเรื่องราว เล่าแหล่งที่มาอย่างแจ่มแจ้งพาผู้ชมอินและก็เชื่อไปจนกระทั่งจบหนัง หนังกลับใช้เวลาในเล็กน้อยยาวเกินจำเป็นในนิดหน่อย จริงอยู่ว่าความยาวของหนังจะช่วยเสริมให้เรื่องราวเด่นชัดและก็พอดิบพอดีที่สุดแต่ว่าใช่ว่าจะพอดิบพอดีกับคนอีกจำนวนไม่น้อยที่บางครั้งอาจจะกำลังคาดหมายในภาคต่อจำเป็นต้องระเบิดตู้มต้าม เดินเรื่องฉับไวตามสไตล์ภาคต่อบางครั้งก็อาจจะจำต้องผิดหวังกันเต็มที
รีวิว Dune 2 ตำนานกลุ่มผู้ถูกเลือก สนุกสนานตื่นเต้น ขึ้นแท่น Sci-Fi ระดับมหากาพย์ที่ปี
ถ้าหาก Dune ภาค 1 เป็นการปูเรื่องราวให้มองเห็นพื้นเพรวมทั้งความเป็นมาของนักแสดง มีตัวละครใหม่ปรากฏมากยิ่งกว่าเดิมมาย การเดินเรื่องราวบางครั้งอาจจะนิ่งๆมิได้หวือหวาเท่าไรนัก แต่ว่าสำหรับ Dune 2 เป็นการถักต่อรายละเอียดสุดเข้มข้น เพื่อยกฐานะความน่าระทึกใจอย่างมากใหญ่ โดยยิ่งไปกว่านั้นเมื่อหนังทำออกมาในต้นแบบ IMAX ได้มอบประสบการณ์ภาพ เสียง รวมทั้งวิชวลงดงามให้ผู้ชมได้สัมผัสฉากแอ็กชันวิจิตรตระการตาของเรื่องราวการเสี่ยงภัยของพอล อะเทความยินดีส ชายผู้ถูกมั่นใจว่าชะตาชีวิตได้ระบุเขาให้เป็น The Chosen One หรือที่ถูกเรียกชื่อกันว่า “ลีซาน อัล-ไกอีบ” ซึ่งก็คือคนที่จะนำพาชาวเฟรเมนไปสู่ยุคสมัยใหม่ dune พากย์ไทย
ความน่าดึงดูดใจที่เพิ่มเข้ามาใน Dune 2 เป็นการเล่าความเกี่ยวพันที่ปรับปรุงขึ้นระหว่างพอลและก็ชานี สะท้อนให้มองเห็นมุมมองชานี หญิงสาวเผ่าเฟรเมนที่มิได้ให้ศาสนาหรือความเชื่อถือที่ถูกส่งต่อมาจากรุ่นสู่รุ่นเข้ามาครอบครอง เริ่มต้นคุณเฝ้าดูพอลในฐานะคนภายนอกเผ่า ไม่ใช่ผู้นำลัทธิเหมือนกันกับเฟรเมนคนอื่นแม้กระนั้นทั้งสองประสานมือต่อสู้กับผู้ข่มขี่ที่มีพลังอำนาจเหนือกว่า โดยที่ตัวพอลเองได้ใช้อีกทั้งเชื่อถือแล้วก็กลยุทธ์สำหรับเพื่อการนำกองทัพกลุ่มคน ผู้ชมจะได้มองเห็นความเจริญความเกี่ยวพันของทั้งสอง ช่วงเวลาเดียวกันก็ได้มองเห็นความมีมิติของนักแสดงพอลที่เติบโตขึ้นอีกด้วย
การแสดงนำโดยทิโมธี ชาลาเมต์ ในภาคนี้ ได้บ่งบอกถึงถึงเสน่ห์รวมทั้งสมรรถนะสำหรับการแสดงอย่างเต็มเปี่ยมของเขา โดยยิ่งไปกว่านั้นหน้าที่ที่จะต้องใช้พลังความเป็นหัวหน้าทางด้านจิตวิญญาณเพื่อนำมวลชนผสานร่วมกันต่อสู้ของ “อะเทความชอบใจส” รวมทั้ง “เดอะ เฟรเมน” สำหรับเพื่อการประมือกับ “ฮาร์คอนแนน” ซึ่งเป็นผู้แทนฝั่งความเหี้ยมโหดที่สื่อออกมาให้มองเห็นอย่างเห็นได้ชัด ดูหนังผีออนไลน์
นอกจากฉากสุดยอดเยี่ยม และก็ภาพน่าระทึกใจที่กำลังจะได้มองเห็นในภาคนี้ รวมถึงการต่อสู้กันของฝั่งผู้แทนคุณงามความดีรวมทั้งความทารุณไร้มนุษยธรรมแล้ว ก็ยังสะท้อนให้มองเห็นถึงข้อความสำคัญความเกี่ยวเนื่องระหว่างมนุษย์แล้วก็ธรรมชาติ ตลอดจนการปรับตัวเพื่อดำรงเชื้อสายของคนเรา ซึ่งมีการช่วงชิงอำนาจรวมทั้งทรัพยากรกันอย่างไม่มีทางจบนั่นเอง
รีวิวหนัง ‘มองน ภาคสอง’
ความจริง ‘DUNE’ มันเป็นวรรณกรรมจาก แฟรงค์ เฮอร์เบิร์ต ที่พิมพ์มาตั้งแต่ปี 1965 ใครๆที่อ่านก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า เรื่องราวมันสลับซับซ้อนรวมทั้งจำเป็นต้องพึ่งงานสร้างที่ตระการตาเอามากๆเคยมองเวอร์ชันก่อน ของ เดวิด ลินช์ ก็จะต้องกล่าวว่า ทั้งยังยาว ทั้งยังมองยากและไม่รู้เรื่องอยู่หลายจุด จนกระทั่งมาได้พบเวอร์ชันนี้ของ เดนิส วิลเนิฟ ที่เลือกสร้างแบบแยกส่วน แล้วไปวัดดวงเอาว่า ผลตอบรับจะดีพอให้ไปต่อหรือเปล่า
ด้วยงานสร้างที่น่าทึ่งในทุกส่วนประกอบ ทั้งยังภาพ เสียง โปรดักชัน รวมทั้งการแสดง บางทีอาจพูดได้ว่า เลือกผู้กำกับได้ถูกคน แถมเทคโนโลยีก็ถึงพร้อมแล้วอีกต่างหาก แม้กระนั้นถึงแบบงั้น ‘Dune’ ภาคแรกก็ไม่ใช่จะเข้าถึงได้กับทุกคน ใช่ล่ะ มันเป็นภาคปฐมบทที่เล่าปูพื้นของจักรวาลมองน ที่มีเนื้อหาค่อนข้างจะเยอะแยะ แล้วก็เป็นภาคที่มีฉากแอ็คชั่นน้อย ก็เลยทำให้ผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยบางทีอาจอยากนอนหลับ แล้วก็ตื่นมาในฉากที่มีดนตรีประกอบอันเอะอะกระโดดกระดอนของ ฮานส์ ซิมเมอร์
งานดีไซน์สิ่งก่อสร้างและก็เครื่องจักรต่างๆก็จะต้องจัดว่าน่าละลานตารวมทั้งคิดมาอย่างยอดเยี่ยม พอใจในเรือบินใบหน้าแล้วก็ฟังก์ชันเหมือนแมลงปอ ถูกใจมุมมองภาพยามนักแสดงขี่หนอนทราย มันราวกับพวกเราได้ขึ้นไปขี่หนอนปู่ด้วยตัวเอง ทรายที่ซัดเข้าหน้าชักชวนรู้สึกสมจริงสมจังเป็นอย่างมาก ถูกใจในภาษารวมทั้งสำเนียงที่เลือกใช้ในแต่ละเชื้อสาย มีตัวละครมากขึ้นมากพอควร แถมยังมีนักแสดงที่มาเซอร์ไพรส์ชักชวนฮือฮาด้วย ภาคนี้ดำเนินเรื่องด้วยฉากแอ็คชันสลับดราม่าตลอดไปจนถึงจบ ทำให้หนังมองสนุกสนานขึ้นกว่าภาคแรกพอเหมาะพอควร
มันยังคงเป็นหนังที่ควรมองซ้ำเหมือนกับภาคแรก ด้วยเหตุว่าพวกเราจะได้เห็นอะไรที่ผ่านไป แล้วก็รู้เรื่องเรื่องราวของแต่ละนักแสดงได้อย่างเข้าถึง รวมทั้งเมื่อเขาทำมาเพื่อการรับดูในโรงหนังอย่าง IMAX ก็ควรมีสักหนึ่งครั้งสักรอบที่กำลังจะได้รับดูในโรงหนังระบบนี้ แม้ว่าจะจำต้องซ้ำอีกสักรอบสองรอบก็ตาม dune พากย์ไทย
เสริมกองทัพด้วยตัวบทที่ยังคงแบบเดิมสำหรับการเล่า ย่อยช้าๆไปอย่างสวยๆแบบภาคก่อนที่จะตอนนี้จะเป็นการเซ็ตติ้งฝั่งการยืนขึ้นขึ้นมาประมือของ อะเทรติส ที่เริ่มไล่เล่าอย่างสมบูรณ์เก็บทุกเม็ดอย่างระมัดระวังกระทั่งสามารถนำส่วนประกอบการเบาๆอธิบายช้าๆโกรธาเบิดระเบ้อพีคสุดปรอทได้โอเคในตอนข้อสรุปด้วยฉากแอ็คชั่นสุดวิจิตรตระการตาแบบหนังสงครามฟอร์มยักษ์ที่เคยได้เห็นมานักต่อนัก ที่ใช้วัถเหม็นตุดิบเรื่องราวในโลกตนเองได้ครบแล้วก็สมใจผู้ชมเจริญมากมายๆอย่างจะต้องเป็นได้ดิบได้ดีแถมยังต่อยาอดสำหรับการขยายจักรวาลมองนได้ดิบได้ดีอีกขึ้นด้วย
มีดีมากมายก็ควรมีเสียดายบางส่วนปกติด้วยตัวหนังที่ช้านานแทบถึงสามชั่วโมงที่ใช้เวลาไปสำหรับในการปูเรื่องราว เล่าความเป็นมาอย่างแจ่มแจ้งพาผู้ชมอินและก็เชื่อไปจนกระทั่งจบหนัง หนังกลับใช้เวลาในเล็กน้อยยาวเกินจำเป็นในนิดหน่อย จริงอยู่ว่าความยาวของหนังจะช่วยเสริมให้เรื่องราวแจ่มแจ้งและก็พอดิบพอดีที่สุดแต่ว่าใช่ว่าจะพอดิบพอดีกับคนอีกจำนวนไม่น้อยที่บางครั้งอาจจะกำลังมุ่งมาดในภาคต่อจำต้องระเบิดตู้มต้าม เดินเรื่องฉับไวตามสไตล์ภาคต่อบางครั้งก็อาจจะจำเป็นต้องผิดหวังกันครามครัน
มวลรวมแล้ว Dune 2 เป็นการกลับมาของหนังภาคต่อไซไฟที่เจิดแจ่มแจ้งด้วยงานสร้าง งานภาพ ที่สง่างามพราวแพรวกว่าครั้งกระโน้นหลายเท่าตัวด้วยวิธีงานสร้างเฉพาะบุคคลของ เดอนี วีลเนิฟว์ และก็ดาราในมวลรวมที่เชิญพาเรื่องราวของมองนเข้าไปไหลรวมผูกจิตใจผู้ชมผู้ชมได้อยู่มือหากแม้ความยาวของหนังและก็สไตล์เล่าช้าๆเบาๆย่อยจะมิได้ชอบใจกับทุกคนเท่าไรนักก็ตาม นับได้ว่าเป็นหนังภาคต่อไซไฟที่แสนสุดจะหายากในยุคนี้จริงๆ
เรื่องย่อ Dune: Part Two ภาพยนตร์ประเด็นนี้จะตามติดการเสี่ยงภัยที่จะเปลี่ยนเป็นตำนานของ พอล อะเทรติส ที่เขาได้ร่วมกับ ชานี่ และก็เหล่าเฟรแมน ขณะเดียวกันนั้นเขาก็อยู่บนทางที่การแก้เผ็ดทุกคนที่มีส่วนร่วมสำหรับการทำลายครอบครัวของเขา พร้อมเจอหน้ากับช่องทางระหว่างความรักในชีวิต กับโชคชะตาของจักรวาลทั้งหลายทั้งมวล ขณะเดียวกันนั้นเขาก็ต้องหาทางคุ้มครองอนาคตอันทรามที่มีแค่เพียงเขาแค่นั้นที่เห็น
ใน Dune: Part Two นั้นจะเกิดเรื่องราวที่จะให้ความเอาใจใส่กับการใช้ชีวิตของพอล ที่จะต้องทำความเข้าใจการใช้ชีวิตกับเหล่าเฟรแมน ชนพื้นเมืองของดวงดาวที่คราวหนึ่งเขารวมทั้งเครือญาติเคยเป็นผู้ดูแล แน่ๆว่าเขาจำเป็นต้องได้ทำความเข้าใจของใหม่ๆแต่ว่ามันจะเปลี่ยนเขาให้แปลงเป็นอะไร แล้วเขาจะใช้สิ่งที่มีสำหรับเพื่อการสกัดกั้นอนาคตอันชั่วร้ายของจักรวาลได้อย่างไร นี่เกิดเรื่องที่พวกเราต้องหาคำตอบกันถัดไป
บอกเลยว่าใน Dune: Part Two นั้นยิ่งใหญ่ รวมทั้งทรงอำนาจสมคำล่ำลือจริงๆสมกับเป็นมหากาพย์ภาพยนตร์ ที่คนชอบดูหนังทั่วทั้งโลกเผ้าคอย จำต้องบอกเลยว่าคุ้มทุกราคาจริงๆกับภาคนี้ ด้วยเหตุว่า ตัวหนังนั้นจัดเต็มมากกว่าภาคแรก แถม ยิ่งใหญ่กว่าหลายเท่าเลยขอรับหมายถึงไม่ว่าฉากไหนก็สามารถสร้างอิมแพคได้ตลอดทั้งข้อเท็จจริงๆส่วนเค้าเรื่องในพาทนี้ของ Dune นั้น ในตอนแรกพวกเราจะได้มองเห็นพอล อะเทรติส กับการใช้ชีวิตในทะเลทรายร่วมกีบชาวเฟรแมน ตลอดกาลจนกระทั่ง พิธีบูชาต่างๆของชนเผ่า กับเรื่องราวของเด็กในคำพยากรณ์ และก็ จบท้ายด้วยการรบ ซึ่งตัวหนังนั้นได้วางลำดับการเล่าได้อย่างยอด มีลูกล่อลูกชนอยู่เสมอ จนถึงไม่สามารถละสายตาได้เลยจริงๆ
รีวิวหนัง Dune: Part Two มองน ภาคสอง
ส่วนการดำเนินเรื่องของภาคนี้นั้นก็เป็นอะไรที่เพลิดเพลินมากมายนะครับ ตัวหนังทำเอาผู้ชมต่างราวกับอยู่ในความคิดความฝันเลยจริงๆแถบจะมิได้ละสายตาจากหนังเลยจริงๆเพราะว่าเนื่องจากว่ารายละเอียดนั้นน่าดึงดูด บวกกับการเล่าที่แบบยิ่งใหญ่เนี้ยล่ะขอรับ นอกเหนือจากการดำเนินเรื่องที่น่าดึงดูดแล้ว พวกความแอ็คชั่นนี้ก็จำเป็นต้องชูให้เขาเลยจริงๆตื่นเต้นรวมทั้งมีให้ลุ้นกันตลอดทั้งเลยเลยนะครับ เว้นแต่ความแอ็คชั่นที่โคตรเดือดแล้ว ด้านของงานภาพนี้ก็เจ๋งมากนะครับ กล่าวได้ว่า อีกทั้งภาพอีกทั้งเสียงเป็นมาครบ สาแก่ใจ สมกับกับเป็นมหากาพย์ภาพยนตร์ไซไฟฟอร์มยักษ์เลยล่ะขอรับ
รีวิวหนัง Dune: Part Two มองน ภาคสอง
ส่วนผู้แสดงนั้น ก็บอกเลยว่า ทิโมธี ชาลาเมต์ แล้วก็ เซนเดย์อา เอาอยู่หมดเลยขอรับ ผู้แสดงในภาคนี้นั้นมีเสน่ห์แล้วก็เชื้อเชิญให้น่าติดตามมากมายๆครับผม นอกจากยังมีตัวละครของ รีเบคก้า เฟอร์กูสัน ที่มองน่าเคารพ และก็ น่าติดตามไม่แพ้ตัวหลักๆเลยล่ะนะครับ รวมทั้ง ในที่สุดกับ ออสติน บัตเลอร์ ที่รับบทบาทเป็นตทุจริตของภาคนี้ก็บอกเลยว่า โรคทางจิตและก็โหดเหี้ยมมากมายๆเช่นเดียวกันนะครับ
แต่กับ DUNE เวอร์ชั่นนี้จำต้องชูความดีความชอบให้กับผู้กำกับมือดีอย่าง เดนิส วิลเลเนิร์ฟ ซึ่งสามารถแปลงความสลับซับซ้อนพวกนั้นให้เป็นภาษาบนแผ่นฟิล์มถ่ายรูปซึ่งไม่ยุ่งยากต่อการเข้าถึงกระทั่งน่าตกใจ ประเภทที่ว่าเมียผมที่ไปนั่งดูด้วยกันซึ่งไม่ทราบจะ DUNE มาก่อนยังนั่งมองได้อย่างรู้เรื่อง ถึงแม้ว่าตัวเรื่องเต็มไปด้วยชื่อเฉพาะแล้วก็พวกให้จำเยอะมาก
ส่วนตัวผมที่ไม่เคยอ่าน DUNE เหมือนกัน แม้กระนั้นทำการบ้านเรื่องข้างรวมทั้งลักษณะเรื่องราวไปก่อนหน้านั้นเห็นข้อตำหนิมันเพียงแค่ความไม่จบในตอนก็แค่นั้น เพียงแค่ข้อเดียวจริงๆแต่ว่ามันดันเป็นข้อใหญ่ เพราะว่าหนังราวกับโดนหั่นครึ่งเอาซุกซนๆแบบคลิฟแฮงเกอร์ ที่แม้ว่าจะเชิญชวนให้มีความรู้สึกว่าภาค 2 มาปัจจุบันนี้เลยได้ไหม แม้กระนั้นก็ยังอดไม่ได้ที่จะมีความคิดว่ามันควรจะส่งจบได้ดีมากว่านี้อีกนิดหน่อยหนึ่ง
มันบางทีอาจเนื่องจากผมถูกใจธีมของเรื่องมากๆเลยทำให้อีกสิ่งหนึ่งที่คนพร่ำบ่นกันอย่างการสโลว์เบิร์นเล่าเอื่อยเฉื่อยเครื่องติดช้าๆอันเป็นซิกข์เนพบร์ของวิลเลเนิร์ฟทำอะไรผมมิได้เลย บอกก่อนว่าผมเองไม่ใช่แฟนงานของวิลเลเนิร์ฟขนาดนั้น ผมถูกใจ Arrival แต่ว่านั่งหลับตอน Blade Runner กับ DUNE เองบางครั้งก็อาจจะยังเล่าช้าแม้กระนั้นผมว่าจังหวะในรูปภาพรวมนั้นมีความรวดเร็ว กระชับ และก็เชิญตื่นเต้นมากยิ่งกว่า Blade Runner ระดับหนึ่งซึ่งผมเยี่ยมมากๆ
ความยอดเยี่ยมที่สุดของ DUNE เป็นความเป็น Cinematography ของมัน มันมีความเป็นภาพยนตร์สูงมากมาย การเล่นแสงสว่างเงา เลือกโทนสี คอสตูม เน้นย้ำถ่ายฉากกว้างๆให้มองเห็นถึงโลกในตัวหนัง มันเหมือนกับจะโอบรับผู้ชมและก็ต้อนพวกเราเข้าไป งานละเอียดจนกระทั่งเกือบจะหยุดหายใจ ก็คงจะเป็นอีกหนึ่งต้นเหตุให้ผมไม่พึงใจในความช้าของมัน เพราะว่านั่งมองแต่ละช็อตแต่ละซีนภาพที่ถูกถ่ายทำออกมามันก็เลอค่ามากมายๆเหมือนกับได้อัปเกรดสายตาไปอีกขั้นจริงๆแล้วก็แน่ๆว่าของดีๆอย่างงี้ก็จำต้องมองในหน้าจอใหญ่ๆระบบดีๆในโรงหนังเพียงแค่นั้นขอรับ ก็เลยจะเติมเต็มประสบการณ์มองประเด็นนี้ได้อย่างเต็มเปี่ยม