ดูหนังฝรั่งเต็มเรื่อง ดูหนังHD ดูหนังใหม่ หนัง ดูหนังฟรี
ดูหนังฝรั่งเต็มเรื่อง เว้นเสียแต่บรรดาผู้แสดงหลักแล้ว นักแสดงสมทบแต่ละตัว ก็สะท้อนภาพช่วงเวลาที่วัววิดระบาดได้อย่างน่าดึงดูด ไม่ว่าจะเป็นคริสตัล (ไอริส อพาโทว์) เจ้าแม่ Tiktok สกิลการเต้นสุดปัง สาวน้อยวัย 18 ปีที่สตูดิโอจับคุณมาเล่นหนังประเด็นนี้เพื่อเรียกแฟนๆนางมาดูหนังภาคต่อ โดยอย่างที่พวกเราทราบกันดีอยู่แล้วว่าแอปฯ นี้บูมไปทั้งโลกในเวลานั้น จนกระทั่งผู้แสดงดาร์เรน (เฟรด อาร์มิศาสนาเชน) ผู้กำกับหนังคลิฟบีสต์ 6 ที่เพียรพยายามเคลมตนเองถี่มากว่าเขาเป็นผู้กำกับระดับรางวัลซันแดนซ์ หากว่าสิ่งที่ผู้ชมได้มองเห็นบนหน้าจออยู่เสมอเวลานั้นคงจะทำให้ผู้กำกับคนนี้ครอบครองรางวัลราซซี่อวอร์สอย่างแน่ๆในอนาคต!
อนิเมะประเด็นนี้สร้างความสนุกสนานร่าเริง ตลกโปกฮา พร้อมเรื่องราวคตวามชมรมมิตรภาพของเพื่อนพ้อง และก็ครอบครัวได้อย่างดีเยี่ยม รวมทั้งมีความแฟนตาซีเพิ่มสัสันเข้ามาให้ครบรส งานภาพดีไซน์สวย ผ่องใสตามสไตล์บทรวมทั้งแนวเรื่องที่ครบถ้วนบริบูรณ์มากมายๆการนำกย์โอเค มาตรฐานของสตูดิโอและก็นักบรรยาย และก็คำพรรณนาไทยใน TrueID เป็นไปตามอารมณ์ และก็หน้าที่อย่าวบริบูรณ์
โดยรวมจำเป็นต้องพูดว่า ‘Prey’ เป็นหนังที่ตีปัญหาการผลิตได้ขาด สามารถป้อนปากผู้ชมที่ปรารถนาเรื่องราวดิบๆเข้าใจง่ายๆแต่ว่าขอให้บันเทิงใจก็เพียงพอซึ่งเป็นผู้ชมกรุ๊ปใหญ่ ใส่นัยความไม่ลงรอยกันเชิงประวัติศาสตร์แล้วก็ข้อโต้เถียงถึงกระแสของโลกเดี๋ยวนี้ลงไปแบบเห็นได้ชัดแม้กระนั้นไม่ขัดหูขัดตาเพื่อผู้ชมกรุ๊ปที่อยากได้อะไรที่เป็นสาระบ้างได้เอาไปถกกันต่อ รวมทั้งยังไม่ทิ้งแฟนของ ‘Predator’ ทั้งยังฉบับหนังและก็ฉบับหนังสือให้พบอีสเตอร์เอ้กอปิ้งน่าชม ได้พ่วงดึงดูดใจให้ผู้ที่สงสัยว่ามันเป็นอย่างไรไปค้นหาต่อด้วย แล้วก็ที่ว่ามาทั้งผองหนังพาผู้ชมไปได้หลายระดับการดูโดยที่ไม่มีกรุ๊ปไหนที่รู้สึกน่าเบื่อหน่ายเลยด้วย นี่เป็นยอดเยี่ยมการบรรลุผลจริงๆของหนังหัวข้อนี้
เอาเป็นโดยภาพรวมนั้น Purple Hearts ถือได้ว่าหนังรักที่ได้ผลลัพธ์ที่ดีเหนือการคาดการณ์ไปนิดหน่อย ดูหนังฝรั่ง แอคชั่น เพราะเหตุว่าไม่คิดว่าจะสามารถตอบปัญหาความน้ำเสียได้น่าชื่นชมเพียงเท่านั้น เป็นความซ้ำๆซากๆในต้นแบบที่ยังทำออกมาได้สนุกสนาน เคมีพระนางเข้ากันได้ แล้วก็หลายๆส่วนประกอบก็ทำออกมาได้ดิบได้ดี ทั้งยังนี่แปลงเป็นหนังแนวที่ออกจะหาดูได้ยากขึ้นในยุคนี้ เป็นความซ้ำๆซากๆที่พวกเราเพลิดเพลินได้อย่างไม่น่าเชื่อเหมือนกัน
เปิด Netflix มารีทิวทัศน์ The Bubble
กองถ่ายนี้ วายป่วงในห้วงวัววิด! ผู้ใดกันจะไปมีความคิดว่าการออกกองถ่ายหนังฟอร์มยักษ์ในตอนวัววิด (ระลอกแรก) ระบาดจะเกิดเรื่องทุกยากลำบากของสตูดิโอ เมื่อการขนดาราคนจำนวนไม่น้อยมากักตัวรวมกันเพื่อถ่ายภาพยนตร์จะวายป่วงกว่าที่คิด! ผลงานภาพยนตร์ตลก การควบคุมของจัดด์ อพาโทว์ ซึ่งบากบั่นจะเสียดสีอุตสาหกรรมภาพยนตร์ฮอลลีวูด
ไม่ว่าจะเป็นระบบสตูดิโอที่พากเพียรจะสร้างภาพยนตร์แฟรนไชส์ภาคต่อทั้งๆที่บทหนังเฮงซวยแล้วก็ซ้ำจากจำเจ ดูหนังฝรั่งเต็มเรื่อง บรรดาผู้แสดงเซเลบริตี้ที่มากเรื่องมากความ ความโกลาหลที่เกิดขึ้นในกองถ่ายหนัง แล้วก็การจับเอาเหตุการณ์ในตอนวัววิด-19 ระลอกแรกๆระบาดมาเป็นสาเหตุสำหรับการเพิ่มความวายป่วงให้กับหนังประเด็นนี้มากเพิ่มขึ้น
และก็ถ้าเกิดจะมีจุดบกพร่องจริงๆที่พอนึกออกเป็นการรับดูผ่านหน้าจอที่บ้าน ทำให้มองเห็นเนื้อหาซีจีที่มันมองเลียนแบบๆไปนิด หรือบางทีอาจด้วยโปรดักชันที่เด่นชัดว่าจะเป็นหนังสำหรับฉายสตรีมไม่งทำให้บางฉากซีจีมองยังไม่เยี่ยมสักเท่าไหร่ก็เป็นไปได้ และก็ความรู้สึกแปลกๆระหว่างมองที่มีอีกอย่างเป็นเชื้อสายมือสังหารที่พึงใจในเกียรติยศตนเองขนาดนั้นจะล่องหนสู้เพราะเหตุไรในขณะที่เหนือกว่าอีกข้างมากอยู่แล้ว อืมมม
ในช่วงนี้ที่พวกเราจะมองเห็นได้ชัดๆเลยว่า พวกหนังรักโรแมนติกทั่วๆไปแทบไม่มีที่ยืนสำหรับเพื่อการพาตัวไปลงหน้าจอฉายในโรงหนัง ด้วยเหตุว่าหากว่าไม่แจ๋วจริงแล้วละก็มีสิทธิ์ปังบรรลัยสูงไม่น้อย โน่นก็เลยเป็นต้นเหตุที่ทำให้หนังแนวนี้ต่างพากันทยอยลงหน้าจอสตรีมมิ่งกันหมด เหมือนกันกับ “Purple Hearts” หนังรักกลิ่นหอมหวนหึ่งโชยมาเรื่องปัจจุบัน ที่แปลงเป็นบทรักดราม่าที่เสมือนจะปกติแต่ว่าพอใช้มองเนื้อในแล้วเอ้อ ก็เพลิดเพลินดีแบบเดียวกันนะ
The Bubble เล่าระยะเวลาที่หนังเรื่องคลิฟบีสต์ภาค 6 กำลังจะถ่ายทำถ่ายทำ แต่ว่าด้วยเหตุการณ์วัววิดระบาด ทำให้สตูดิโอจำเป็นต้องใช้กรรมวิธีนำคณะทำงานแล้วก็ดาราหนังทุกคนมาอยู่รวมกันในโฮเต็ลแห่งหนึ่งในอังกฤษ โดยเรียกว่า “เดอะ บับเบิ้ล” เป็นระยะเวลาสามเดือนจนกระทั่งหนังจะถ่ายทำเสร็จและก็ปิดกล้อง โดยแคคอยล (ค้างเรน กิลแลน) เป็นศิลปินคนในที่สุดที่ตอบตกลงจะกลับมาแสดงแฟรนไชส์นี้อีกรอบ ภายหลังที่ตนเองเคยเทหนังภาคก่อนไปเล่นหนังอินดี้ แต่ว่าภายหลังจากถูกวิภาควิจารณ์เสียหายไม่เหลือชิ้นดี เพื่อกู้ความโด่งดังคืนมาคุณเลยกลับมาเล่นหนังหัวข้อนี้อีกรอบ
ระหว่างเดินไปหน้าโรงภาพยนต์เห็นคนแต่งชุดนักแสดง Star Wars เดินอยู่จำนวนหลายชิ้นเลย สวมเสื้อยืดสกรีนเป็นลายผู้แสดงบ้าง ใส่หน้ากากบ้าง ถือกระบี่ไลท์เซเบอร์บ้าง แต่ว่าบางบุคคลก็มากันแบบจัดเต็มครบชุด เท่ห์มากมายๆบางบุคคลก็มากันเป็นกรุ๊ปก็มี ที่ถูกใจมากมายๆก็คือ มีคู่นึงที่น่าจะเป็นบิดาลูกกัน คนบิดาสวมชุดเจได คนลูกก็แต่งราวกับเป็นพาดาวัน(Padawan) อีกทั้งบุคลิกลักษณะรวมทั้งเครื่องนุ่งห่มดูอย่างกับว่าในหนังมากมายกกก มองเห็นแล้วอดยิ้มมิได้
‘Uncoupled’ ใช้สูตรสำเร็จของสตาร์แบบไม่ต้องเสียวัดชั่งน้ำหนักตวงใหม่ หรือกล่าวให้กระจ่างแจ้งเป็นเดินตามรอยสูตรสำเร็จของ ‘Sex and the City’ ไม่ว่าจะเป็นตัวละครเอกที่เป็นชนชั้น Upper Class (มีเงินทอง แม้กระนั้นมิได้มั่งคั่ง) กรุ๊ปเพื่อนพ้องสามสี่คน บทสนทนาที่เต็มไปด้วยมุกตลกโปกฮาสัปดน (แต่ว่าไม่อุจาด) ผสมกับมุกขำขันที่อัดแน่นด้วยวัฒนธรรมป๊อป และก็ลีลาท่าทางการตอบกลับแบบ ทำมือเป็นเครื่องหมายคำพูด “นิวยอร์กเกอร์” และก็แน่ๆบรรยากาศของเมืองแมนฮัตตัน ที่เหมือนเป็นตัวละครสำคัญของซีรีส์เหมือนกับ ‘SATC’ (หรือนครกรุงปารีส ใน ‘Emily in Paris’) ผลที่ออกมาถึงแม้ไม่เกินความคาดหวัง
แต่ว่าก็ไม่จัดว่าน่าผิดหวัง ‘Uncoupled’ เป็นซีรีส์ที่สร้างความเบิกบานใจได้ดิบได้ดี หลายฉากทำให้ท่านปลดปล่อยเสียงเฮดังสนั่นหวั่นไหวแบบไม่ตั้งตัว ด้วยความยาวตอนละครึ่งชั่วโมง มองเพลิดเพลินๆประเดี๋ยวเดียวก็จบซีซันแล้ว แม้กระนั้นสิ่งที่จำเป็นต้องปรับปรุง (แม้จะสร้างซีซัน 2) เป็นบทที่วนคงที่ ไม่ไปไหน นับว่าเป็นข้อบกพร่องเดียวกับ ‘EIP’ ที่เส้นเรื่องหลักไม่เดินไปไหน มีแต่ว่าการเล่าเส้นเรื่องรอง การเผชิญหน้ากับเหตุการณ์ต่างๆไปวันๆ(แต่ว่าอย่างต่ำนักแสดงใน ‘Uncoupled’ ก็มีความรู้สึกพิจารณาที่ “ฉลาดหลักแหลม” กว่า – ขออภัยนะ – เอมิลี)
ความเพลิดเพลินของ The Bubble เป็นเนื้อหานิดๆหน่อยๆที่หนังอุตสาหะจิกกัดแวดวงภาพยนตร์ ที่ไม่รู้จักว่าใช่หรือลวง แต่ว่าก็ดูเหมือนกับว่ามีเค้าเรื่องของข้อเท็จจริงอยู่พอได้ หากผู้ใดกันพอใจแวดวงสนุกสนานต่างถิ่นเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ก็น่าจะขำไปกับหลายๆจุดที่หนังมานะขยี้ หรือจนกระทั่งแขวะความเหลวไหลไม่เป็นประโยชน์ของอุตสาหกรรมสนุกสนานยักษ์ใหญ่ของโลกใบนี้เลยก็ว่าได้
รีวิวหนัง Star Wars : The Force Awakens
มหากาพย์การรบที่กาแล็คซี่ คอยกันมานานกว่า 10 ปี สำหรับซี่ปรี่ส์การศึกที่กาแล็คซี่ Star Wars แล้วก็พึ่งเปิดตัวกันไปใหม่ๆสำหรับชาวบริสเบนรวมทั้งประเทศออสเตรเลีย เมื่อคืนนี้วันพุธที่ 16 เดือนธันวาคมก่อนหน้าที่ผ่านมา Star Wars Episode VII : The Force Awakens โดยก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาพวกเราได้จองตั๋วรอบพรีเมียร์ล่วงหน้ากว่า 2 อาทิตย์ (แทบจะมิได้ดูแล้ว เนื่องจากว่าเต็มเอี๊ยด ขนาดเป็นรอบเที่ยงคืนนะเนี่ย) เพื่อมารีทิวทัศน์บรรยากาศและก็ความมันส์ของหนังแบบไม่สปอยให้ได้อ่านกัน ก่อนที่จะทำการตัดสินใจไปดูกันในโรงนะจ้ะ สำหรับผู้ที่ไม่แน่ใจว่าจะไปดูดีมั้ย
Purple Hearts เกิดเรื่องราวชีวิตของวัยรุ่นคู่หนึ่งที่ต่างจะต้องเจอหน้ากับปัญหารวมทั้งปัญหาชีวิตร่วมกันทั้งสอง แคสซี่ มีความต้องการต้องการจะเป็นนักแต่งเพลงที่บรรลุความสำเร็จ แต่ว่าคุณยังติดแหง็กเป็นเพียงแค่บาร์เทนเนอร์ในบาร์ ด้วยเหตุว่าปัญหาด้านหนี้ เหมือนกับ ลุค สมัยก่อนชายหนุ่มใจแตกที่เกณฑ์ทหารเข้ากรม เพื่อหวังจะกลับเนื้อกลับตัว พวกเขาทั้งสองได้ตกลงสมรสกันแบบเล่นๆเพื่อหวังจะได้ใช้ผลประโยชน์กองทัพกับผลตอบแทนของตน
เพียงแค่ฟังเค้าโครงเรื่องก็สัมผัสได้ถึงความคลายเช่ซ้ำซากจำเจพอได้ นี่มันพล็อตยุค 20 ปีกลายด้วย กับวัยรุ่นจะต้องฝืนใจมาสมรสกันเล่นๆแล้วอยู่ๆไปก็หลงเสน่ห์กันขึ้นมา เป็นพล็อตที่ซ้ำซากแล้วก็เพียงเท่านี้พวกเราก็รู้ถึงจุดหมายปลายทางของเรื่องกันแทบไม่ต้องทายใจอะไรกันให้ยากเลยด้วย ซึ่งแน่ๆว่า สิ่งที่ออกมานั้นก็เป็นไปอย่างที่พวกเราคิดนั่นแหละ หนังดำเนินไปตามสูตรสำเร็จเป๊ะๆเลย
ความเกี่ยวพันระหว่างผองเพื่อนพ้องผู้แสดง ดูราวกับว่าแต่ละคนจะมีนิสัยบ๊องๆกันไปคนละทางไม่ว่าจะเป็นดัสติน (เดวิด มองคอฟนี) ผู้แสดงนำประจำแฟรนไชส์ที่เป็นโปรดิวเซอร์ของเรื่องโดยที่เขาไม่เคยได้รับเครดิต และก็อุตสาหะจะปรับบทของตนเองให้นักแสดงเฉลี่ยวฉลาดขึ้นบ้าง ซึ่งเขามานะจะกลับไปรีเทิร์นรักกับลอว์เรน (เลสลี่ แมนน์) ภายหลังที่ทั้งสองจำต้องกลับมาร่วมงานกันอีกที และก็เมื่อจำเป็นต้องติดอยู่ในเดอะ บับเบิ้ลเป็นระยะเวลานานทุกๆอย่างก็เอื้อให้ทั้งสองขึ้นเตียงอีกที
แน่ๆว่าผู้ที่หามซีรีส์ไว้เยอะที่สุดเป็นชายหนุ่มแฮร์ริส ผู้แสดงวัย 49 ที่บริหารเสน่ห์ก้าวหน้าเหมือนปกติ โชคดีที่เขาเป็น “หวานใจ” ของผู้ชมอยู่แล้วนับจากซีรีส์ ‘How I Met Your Mother’ ก็เลยไม่ยากที่ผู้แสดงไมเคิลจะตกพวกเราได้ตั้งแต่ทีแรกๆ(เว้นเสียแต่ว่าคุณจะเกลียดเขาเป็นทุนเดิม โน่นจะเปลี่ยนเป็นความน่าเบื่อหน่ายไปในทันทีทันใด) ผงชูรสของซีรีส์จำต้องชูให้ ทิชา แคมป์เบล (Tisha Campbell) ในบทซูซาน เพื่อนพ้องสาวม่าม้าเลี้ยงคนเดียวจิตใจเบิกบานที่ทำธุรกิจร่วมกับไมเคิล ค้างแรกเตอร์ของคุณเต็มไปด้วยสีสัน
สร้างเคมีกับแฮร์ริสก้าวหน้า แบบที่ไม่ล้นจนกระทั่งเหลือเกินและก็ยังมีพื้นข้างหลังของนักแสดงด้ามจับจำต้องได้ นอกจากนั้นยังมี บรูกส์ แอชแมนสกาส์ (Brooks Ashmanskas) ในบท สแตนลีย์ แล้วก็ เอเมอร์สัน บรูกส์ (Emerson Brooks) ในบทใบเสร็จรับเงินลี สองเพื่อนฝูงเกย์ในกลุ่มของไมเคิลที่ทั้งยังรอปลอบโยน กระทบกระแทก แล้วก็สร้างเสียงหัวเราะ ในที่สุดเป็นดาราหนังรุ่นใหญ่ มาร์เซีย เกย์ ฮาร์เดน (Marcia Gay Harden) ในบทแคลร์ ไฮโซสาวใหญ่ที่พึ่งถูกผัวทิ้งและก็เปลี่ยนมาเป็นลูกค้าของไมเคิล แคลร์เป็นตลอดตัวแปรแล้วก็ตัวแปลก (แยก) ที่เข้ามาสร้างสมดุลให้กับกรุ๊ปนักแสดงหลัก ฮาร์เดนเล่นแบบนิ่งๆน้อยๆแม้กระนั้นมีพลัง
แม้กระนั้นแปลงเป็นบนพื้นฐาของความซ้ำซากจำเจนั้น Purple Hearts กลับสามารถใส่เสน่ห์บางสิ่งเสริมเข้าไป ที่พอเพียงจะช่วยยกฐานะให้กับหนังรักดราม่าน้ำเสียๆประเด็นนี้ให้ดูดีขึ้นมาได้เป็นกอง ไม่ว่าจะเป็นส่วนประกอบของการเล่าเรื่อง ที่มิได้เชื้อเชิญน้ำเสียคาวกลิ่นใดๆก็ตามแต่ว่าหนังดำเนินไปพร้อมด้วยด้านหม่นหมองเทาของติดอยู่แรกเตอร์นักแสดงทั้งคู่ตัว ที่ต่างก็ไม่ใช่บุคคลที่มีภูมิหลังที่สะอาดอะไร
และก็เมื่อมาเพิ่มเติมกับอินเนอร์และก็เสน่ห์ของผู้แสดงนำฝ่ายทั้งสองนี้ “โซเฟีย คาร์สัน” กับ “นิโคลัส กาลิตซีน” ที่จำเป็นต้องสารภาพเลยว่าพวกเขาโปรยปรายเสน่ห์ก้าวหน้าในหนังหัวข้อนี้ ทั้งยังเข้าถึงหน้าที่ผู้แสดงที่ได้รับอย่างถ่องแท้อย่างน่าทึ่งอีกด้วย ซีนอารมณ์ก็จัดให้เต็ม ซีนหวานๆก็หยอดมาได้เหมาะเจาะ เป็นเคมีผู้แสดงที่น่าเกินจริงว่าจะเข้ากันได้เพียงนี้ นี่ก็เลยเป็นอีกส่วนประกอบที่สามารถช่วยส่งเสริม Purple Hearts ประเด็นนี้
ถึงเค้าเรื่องของหนังจะน้ำเสียสไตล์หนังจากนิยาย นิโคลัส สปาร์กส์ ในสมัยก่อนราวนั้น ดูหนังฝรั่งเต็มเรื่อง อีกทั้งความดราม่าและก็การจับเอาการราวแวดวงชุดแต่งกายสีกากีเข้ามาเอ่ยถึง เป็นสูตรสำเร็จที่ผู้ชมคงจะเคยได้เห็นกันมาแล้ว แต่ว่าหนังสามารถแตะแล้วก็จับหัวข้อได้อย่างไม่อ้อมค้อม ทำให้กลิ่นเน่าๆเปลี่ยนเป็นกลิ่นชักชวนสูดดมเได้เพลิดเพลินไปอย่างน่าแปลกใจเช่นเดียวกัน
โดยยิ่งไปกว่านั้นเมื่อได้ลีลาท่าทางรวมทั้งความสามารถการควบคุมของ “เอลิซาเบธ อัลเลน โรเซนบาม” ที่เพิ่งประดิษฐ์ฉบับใหม่ของนายสินใน Sneakerella ของดิสนีย์พลัส คุณยังคงสามารถตีปัญหาหนังที่มีความคลีเช่สูงให้ออกมาเป็นหนังที่เต็มไปด้วยความยูนีคได้อย่างเหมาะเหม็ง แล้วก็ใน Purple Hearts หัวข้อนี้ก็ด้วยด้วยเหมือนกัน คุณถือเอาสูตรสำเร็จเดิมๆมากมายลั่นใหม่แปลงเป็นหนังรักที่รสกำลังดี
โดยเหตุนั้นเมื่อสรุปออกมานั้น ก็ถือว่า Emergency Declaration เป็นหนังหายนะทุ่มทุนผลิตมาจากประเทศเกาหลีที่ทำออกมาได้สนุกและก็ตื่นเต้นตรงตามมาตรฐานอย่างยอดเยี่ยม มีหลายๆซีนที่จะควรต้องทำให้ผู้ชมลุ้นเกร็งรวมทั้งแอบจิกเบาะตามไปกับความหวาดเสียวบนความสูง 4 หมื่นฟุตอย่างแน่แท้ ไม่แน่บางที บางทีก็อาจจะไปกระตุ้นการทำงานของอาการฉี่เล็ดแบบไม่รู้จักเนื้อรู้ตัว
เพราะว่าสิ่งที่หนังทำออกมาเจริญรุ่งเรืองเด่นก็ถือฉากระทึกใจที่ไปได้สุดทางจริงๆแล้วก็เป็นส่วนที่ดีที่สุดที่ช่วยประคับประคองความสนุกสนานร่าเริงให้กับเรื่องนี้ ในที่สุดที่ต้องการจะชี้แนะอีกสิ่งก็คือ Emergency Declaration น่าจะเหมาะสมรวมทั้งช่วยเติมเต็มอรรถรสการรับมองเหมาะสมเยี่ยมยอด หากว่าผู้ชมได้ประสบการณ์รับมองในแบบโรงภาพยนต์ 4DX ไปเชื่อก็ทดสอบไปพิสูจน์ดู!
บทเขียนให้นางเอกเป็นหญิงที่อึด ถึก ทน หากว่าดูจากมุมของบุคคลที่สาม จะไม่สามารถเข้าใจได้เลยว่า จะทนไปเพราะอะไรกับผู้ชายพรรค์นี้ แม้กระนั้นบทที่น่าคับอกคับใจส่วนตัวเรารวมถึงความรู้ความเข้าใจในการสื่อภาษากายของ อาเลีย บาตต์ ทำให้เราเข้าใจศิลปินตัวนี้ขึ้นมาเฉยเมย แม้ว่าปรารถนาทะลุจอไปบอกว่า หนีไปเหอะ อย่าไปเชื่อเขา อย่าใจอ่อนสิคุณ แต่ถ้ามองไปถึงบริบทสังคมที่หนังกำลังสนใจเสียดสี เราจะเห็นได้อีกหัวข้อว่า ความอดทนที่คุณเผชิญเว้นเสียแต่ความรักที่หญิงคนหนึ่งจะมีให้กับชายผู้เป็นสามีอย่างล้นหลามล้นประตูแล้ว การหย่าร้างยังคงเป็นบาปติดตัวที่สังคมพร้อมจะมอบให้กับคุณทุกครั้ง
ความหวาดกลัวที่คุณแสดง บอกเลยว่าเห็นอกเห็นใจ เราลืมภาพคังลุกไบไปได้เลยคะ เพราะการกลับมาในตอนนี้ อาเลีย บาตต์มารับบทนางระบมโดยแท้ คุณสวมบทเป็นพทรูได้อย่างแนบเนียนและจากนั้นก็ลบภาพคังปะทุไบไปหมดเกลี้ยง อาจจะเกิดขึ้นเนื่องมาจากความรู้ความเข้าใจการแสดงของคุณเยื่อมยอดอยู่แล้ว หรืออาจเป็นเพราะเนื่องจากบทของหนัง ที่จูงใจให้เราเชื่อฟังไปกับโชคชะตาของนางเอก จนตราบเท่าลืมไปเสียสิ้นว่าสาวสวยคนนี้เคยเป็นมาเฟียสาวจากภาพยนตร์อีกเรื่องหนึ่งมาก่อน
เปิด Netflix มารีทัศนียภาพ Yaksha: Ruthless Operations
เมื่ออัยการขอออกงานเป็นสายทีแรกๆ Yaksha: Ruthless Operations จะปล่อยทางโรงภาพยนต์ แต่ว่าเรื่องด้วยเรื่องโควิด ทำให้บริษัทภาพยนตร์ตกลงปลงใจขายสิทธิ์การฉายให้กับทาง Netflix รวมทั้งได้ปล่อยลงสตรีมมิ่งเมื่ออาทิตย์ก่อน โดยมีนักแสดงนำอย่าง ซอลคยองเรา และก็ พัคแฮซู (Squid Game) ร่วมขบวนความระห่ำ
ถึงคิวของหนังแอคชั่นฟอร์มใหญ่ที่ปีอีกเรื่องของประเทศเกาหลีในปีนี้ ที่จัดว่าแค่เพียงฟอร์มกรุ๊ปแคสติ้งศิลปินออกมานั้น ก็ยั่วใจความชอบใจได้อยู่ไม่น้อย เพราะว่านี่เป็น “Seoul Vibe ซิ่งทะลุโซล” ที่ถือว่าเป็นการผสมหนังอาชญากรรมแนวถนัดของประเทศเกาหลี เพิ่มเติมอีกกับการประลองความเร็วสไตล์หนังเชื้อสายฟาสต์ แต่คำตอบที่ออกมานั้น..จะออกมาเป็นหนังฟาสต์ฉบับโคเรียนได้หรือเปล่า?
ความอดทนนางเอกเรื่องนี้คุณยอมแบบไม่ทราบว่าจะยอมเพราะอะไร ความใจอ่อนที่คุณเป็นและความรักมากมายที่มีต่อสามีของคุณ ทำให้ท่านหลงคารมณ์สามีอยู่ร่ำไป มันบังตาคุณจนถึงมิดรวมทั้งไม่มีความเอาใจใส่ความเหลวแหลกของเขาไปอย่างสิ้นเชิง อีกอย่าง สตรีที่หย่าสามี ยังคงไม่เป็นที่ยอมรับของสังคมมากเท่าไรนัก ก็ต้องทนมือทนเท้าให้น่วมกันไปข้าง
แต่ว่าผู้ใดกันเลยจะทนทุกข์อยู่กับชีวิตแบบนี้ไปได้ทั้งชีวิต บทก็เลยเขียนเกมกลับๆที่เราไม่คาดคิดออกมาในตอนตรงกลางเรื่องตราบจนกระทั่งข้างหลังเรื่องที่จะจำเป็นต้องบอกว่าพีคที่สุด แล้วก็เป็นดุจเงื่อนเฉลยคำตอบถึงความอัดอั้นตันใจ ความจำยอม และชีวิตที่จะจำต้องอยู่อย่างหลอก ของหญิงที่อาจมีอยู่ในสังคมอินเดีย จากการตัดสินใจที่เป็นไปไม่ได้ออก
ฉากต่อสู้แอคชั่นสุดมัน โดยเฉพาะฉากขับยานสู้กัน ต้องเห็นด้วยในความรู้ความเข้าใจการตัดต่อของผู้กำกับเป็นอันมาก ที่ถ่ายทอดเรื่องราวออกมาได้ลื่นไหล ดูแล้วเพลินใจอินไปกับหนังตลอดทั้งเรื่องครึ่งแรกของเรื่อง เปิดมากับการแนะดาราหนัง ตัวเอก ตัวร้ายใหม่ๆได้เร็วทันใจไม่บทนำดี ค้างแรกเตอร์ของแต่ละตัวก็มีความเป็นเอกลักษณ์ บทสนทนาฮาๆมีมาแทรกอยู่เรื่อยๆเป็นแอคชั่นขำๆไม่ซีเรียสเช่นเดียวกันกับภาคก่อนๆก่อนหน้านี้เท่าไร
ความน่ารักน่าเอ็นดูของเจ้าตัวหุ่นกลมกะปุ๊กลุ๊ก BB-8 ที่เราได้แลเห็นกันในตัวอย่างหนังแล้วหลังจากนั้นก็โปสเตอร์ เป็นหุ่นที่มีค้างแรกเตอร์กระจ่างแจ้งมากไม่น้อยเลยทีเดียว ดูละอยากมีไว้ที่บ้านสักตัว อาจจะเป็นด้วยเหตุว่าภาษาอังกฤษเราไม่แข็งแรง บวกกับภาษามนุษย์ต่างดาวนานาประการเชื้อสายในหนังเรื่องนี้ บางเวลาก็มีแปลดูดซับขึ้นให้บางครั้งก็ไม่มี
ก็เลยยังไม่แน่ใจว่าไอฟังไม่ออกเองหรือคุยภาษาต่างชาติกันอยู่ บางคนพูดว่ายังไม่ต้องการที่จะไปดู ขอดูภาค 1-6 ก่อนชั่วครู่ไม่รู้เรื่อง ส่วนตัวแล้วมีความคิดว่าไม่ได้จำเป็นที่จะต้องขนาดนั้น เพราะว่าแม้ว่าจะมีการพูดถึงผู้แสดงในภาคที่ผ่านๆมา ถึงแม้ว่าก็ไม่ได้มีส่วนสำคัญสำหรับการทำให้อรรถรสการอินกับเรื่องราวภาคใหม่นี้มีข้อเสียอะไร
ตั้งใจจริงๆมันดาร์กกว่านี้ได้อีก ยังได้อีกแล้วก็มีที่เหลือให้เพิ่มสีดำลงไปอีกเยอะแยะ แต่ภาพยนตร์เลือกที่จะไม่เพิ่มแล้วก็ใส่สีสันแจ่มใสเข้ามาแทน ด้วยมุกขำขันที่หากแม้ไปอยู่ในภาพยนตร์คอมเมดี้เพียวๆมันจะเรียกเสียงเฮได้เลยละ แต่เมื่อมาอยู่ในดาร์กคอมเมดี้ประเด็นนี้ ที่เนื้อแท้ของบทช่างขมักเขม้น คนเขียนก็เลยขำไม่ออกแล้วก็เกิดความรู้สึกไม่ตลกขึ้นมาในทันทีทันใด ความเสียดายนี้ก็เลยตกอยู่บนความรู้สึกที่ว่า ทำไมไม่เข้มกว่านี้อีกหน่อยล่ะ หรือถ้าเกิดแปลงเป็นดราม่าจัดหนัก อารมณ์ของการรับมองมันใกล้จะถึงแล้วก็ดึงอารมณ์ร่วมได้มากกว่านี้ไหม
Seoul Vibe ซิ่งทะลุโซล เกิดเหตุราวที่เกิดขึ้นตอนที่ผู้คนในกรุงโซลต่างทวีความระทึกใจในตอนไม่กี่วันก่อนกำลังจะถึงพิธีกรรมเปิดการประลองกีฬาโอลิมปิกในปี 1988 นักซิ่งจากกรุ๊ปซางกเยป่าดงซูพรีมได้รับคำเสนอแนะที่ไม่อาจไม่รับ และก็ต้องเข้าไปเกี่ยวเนื่องกับการไต่ถามคดีเงินสินบนของบุคคลสำคัญ โดยมีสมาชิกมี ป่าดงอุค นักดริฟต์มือชั้นยอด, นักจัดรายการวิทยุจอห์น, บ๊กนัม ผู้นำนาง, ยุยงนฮี พระภูมิการปลอมแปลงตัวบนรถมอเตอร์ไซค์ รวมทั้ง จุนกี แมคไกเวอร์ที่ซางกเยป่าดง ดำเนินงานของพวกเขาเริ่มขึ้นแล้ว!
รีวิวซีรีส์ The Sandman
การสู้รบทวยเทพเทวดาสิ่งที่เป็นนามธรรม อาหารสมอง สยองขวัญ หากว่าคนไหนถูกจริตนี่เป็นเพชรเม็ดงาม ปี 1916 ผู้ศึกษามนตร์ในอังกฤษรวมตัวกันชักชวน มรณะ เทพดาที่ความตายมากักขังเพื่อจะได้ขู่เข็ญบังคับให้รู้ตัวชีพผู้เป็นที่รักกลับมา แม้กระทั้งว่าข้อบกพร่องได้ทำให้เทพเทวดาอีกตนถูกจองจำไว้แทน โน่นเป็น นิมิต เทพเจ้าที่ความฝันเมื่อเหล่าจอมคาถาไม่ได้สิ่งที่จำเป็นก็เลยฉกชิงวิ่งราวอาวุธของนิมิตเอามาใช้ประโยชน์แทน
โลกทั้งยังใบเมื่อไร้ความฝันก็ทำให้บางคนไม่อาจหลับแล้วก็บางคนไม่อาจตื่น และที่สำคัญเมื่อไร้ผู้ดูแลเหล่าปีศาจความฝันก็เลยหนีออกมายังโลกมนุษย์ด้วย โดยเฉพาะฝันร้ายนาม โครินเธียน ผู้ชอบอกชอบใจการฆ่าคน เป็นหน้าที่ของนิมิตหรือแซนด์แมนที่ต้องหาทางหนีจากการควบคุมขังรวมถึงรักษาสมดุลของโลกอีกครั้ง
แม้ Seoul Vibe จะเป็นหนังที่สร้างมาก็แค่ลงจอสตรีมมิ่ง ถึงแม้ว่าจะต้องรับเลยว่างานสร้างจริงๆๆเพราะเห็นได้ชัดเลยว่าหนังได้ทุนสร้างหลายชิ้นเลย โดยหนังได้ “มุนฮยอนซอง” ผู้กำกับหนุ่มน้อยที่เคยแจ้งมาจากหนังดัง As One เมื่อ 10 ปีที่ล่วงเลยไป แม้กระนั้นยังไม่มีจังหวะได้เด่นสักหนึ่งครั้ง การได้ก้าวขึ้นมาจับจับทำหนังสเกลที่ใหญ่ๆขนาดนี้ ก็ถือว่าทำเป็นน่าพอใจตามมาตรฐาน ที่โชคร้ายหน่อยๆตรงที่หลายองค์ประกอบยังดูธรรมดาและไม่ได้เด่นสักเท่าไหร่
คอนเซ็ปต์ของ Seoul Vibe ถือว่าได้ว่าค่อนข้างจะน่าสนใจอยู่ โดยเฉพาะการใช้เบื้องหน้าเบื้องหลังในตอนยุคปี 1988 ของประเทศเกาหลีใต้ ที่ถือได้ว่าเป็นยุคที่มีการปรับแต่งแปลงในสังคมประเทศเกาหลีอีกปีนึงอปิ้งยิ่งจริงๆทั้งยังได้เป็นเจ้าภาพมหกรรมกีฬาโอลิมปิก รวมทั้งอัตราการคอร์รัปชันในยุคนั้นค่อนจะสูงพอใช้ได้ เพียงแต่ว่าเมื่อหนังเอามาแต่งเป็นบทหนังออกมาแล้วนั้น ยังมองดูขาดๆเกินๆแล้วก็ให้รสที่ยังอร่อยไม่สุดทางสักเท่าไหร่
การดำเนินเรื่องที่บากบั่นใส่เหตุผลของการทนอยู่ให้ผู้ชมเข้าใจนางเอก เปลี่ยนเป็นแผลใหญ่ของภาพยนตร์ประเด็นนี้ การเลือกใช้หนทางเล่าความหวาน ด้วยการปลดปล่อยภาพชีวิตครื้นครึกช่วงสั้นๆออกมานั้น ขาดความพิเศษน่าติดตามไปเลวชั่วประเดี๋ยวอย่างยิ่งจริงๆดีที่ยังไม่ถึงขั้นให้เราควรต้องเลื่อนผ่าน เนื่องจากมันทำให้ทั้งเราแล้วก็นางเอกในเรื่องเข้าใจได้ว่าผู้ชายบางคนซึ่งก็คือแมงป่องพิษดีๆนี่เอง และก็สิ่งที่แม่เล่าให้ฟังมันเป็นความจริง
ตัวหนังบอกเล่าเรื่องราวของคังอิน (ซอลคยองพวกเรา) หัวหน้าทีมทำงานลับ NIS ที่เมืองเสิ่นหยาง เมืองจีน เขาได้รับฉายาว่า “ยักษ์” เนื่องจากว่านิสัยใจจืดใจดำและทำทุกๆสิ่งทุกๆอย่างเพื่อตัวเองบรรลุเป้าหมายที่ต้องการ แม้ว่าจะจำเป็นจะต้องถึงขั้นเลือดตกยางออกก็ตาม ในขณะที่ฮันจีฮุน (พัคแฮซู) อัยการในที่ทำงานอัยการเขตกลางเมืองโซล
ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รัฐชนิดยอมหักไม่ยินยอมงอ พร้อมพุ่งชนคนผิดในทุกเรื่องราว บอกได้ว่ายึดหลักกฎข้อบังคับไม่แคร์หน้าอินทร์หน้าพรหม ถูกลดขั้นในการปฏิบัติงานเนื่องจากไปงัดข้อกับนักธุรกิจจากที่น่าจะมีเกี่ยวโยงกับวิธีขายชาติ เขาก็เลยเต็มใจที่จะไปตามสืบรูปแบบการทำงานของคังอิน พื้นที่การแน่ใจว่าเขากำลังซ่อนความลับบางสิ่งของภารกิจเอาไว้
หากจะมีใครสักคนคิดและคาดหวังว่า ภาพยนตร์ประเด็นนี้เป็นหนังเอาคืน ที่ภรรยาเอาคืนสามีตัวร้ายอย่างดุเด็ดเผ็ดร้อน หนำใจอีช้อยแน่ๆบอกเลยว่าไม่ใช่ รวมทั้งคุณจะอึดอัดใจแล้วถามนางเอกว่า “นี่เป็นเอาคืนแล้วหรอ” เพราะภาพยนตร์เรื่องนี้กำลังกระทำตัวเป็นปากเป็นเสียงให้สังคมทราบว่า ในมุมหนึ่งของเมืองใดเมืองหนึ่งบนโลก ยังสมรสที่ภรรยาจำเป็นที่จะต้องทนทรมานด้วยความซื่อตรงต่อชายอันเป็นที่รักอยู่ที่จริงแล้วก็ทางออกของพวกท่านมีไม่เยอะมากนัก อย่าให้พวกท่านจำเป็นที่จะต้องถึงทางตันเลย เห็นอกเห็นใจกันบ้าง แลเห็นรอยระบมพวกนั้นไหม เห็นแววตาที่หวาดหลัวและก็คาดหวังการกลับดวงใจของคุณบ้างรึเปล่า
เส้นเรื่องของ Seoul Vibe อย่างกับจะดูซับซ้อนและจากนั้นก็มีมิติเงื่อน กลับถ่ายทอดออกมาได้ยังไม่ค่อยกลมกล่อมละมุนละไมสักเท่าไหร่ หนังยังขาดเสน่ห์บางอย่างไปอย่างโชคร้าย พาร์ทการแข่งรถชิงชัยซิ่งต่างๆก็ทำออกมาให้รู้สึกเพียงเฉยๆไม่ได้ละลานตาหรือรู้สึกว้าวอะไรอะไร อาจจะเป็นเนื่องจากหนังแนวนี้เราได้แลเห็นกันมาหลายเรื่อง เพียงหนังญาติฟาสต์ก็ดูกันไป 9 ภาคแล้ว มันก็เลยคือปัญหาที่ยากที่จะสร้างความไม่เหมือนได้
แน่นอนว่าหนังเรื่องนี้มีลักษณะเด่นสุดๆก็ตรงที่แคสตติ้งดาราหนังชุดใหญ่ บอกได้เลยว่ามีดารารับเชิญโผล่มาร่วมแจมมาก ในขณะที่กรุ๊ปตัวละครแต่ละคนก็ถือว่าเล่นได้ตามมาตรฐาน “ยูอาอิน” นำกรุ๊ปมาในประเด็นนี้ ถึงเขาจะถูกวางตัวให้มาเป็นนางแบกของหนังหัวข้อนี้ แต่หน้าที่ในหนังก็ไม่ได้ทำเขาเด่นกว่าใครกันแน่อื่นเกินไป แต่ก็ยังไม่ได้กลืนไปกับเรื่องราว การแสดงของเขาก็ยังให้มาตรฐานระดับมืออาชีพที่แสดงให้เห็นว่าจำเป็นที่จะต้องทำยังไง
พวกท่านถูกผูกมัดด้วยขนบ ด้วยสายตาของคนเราในสังคม คุณต้องการจะเลือกแม้กระนั้นบางครั้งมันก็เลือกยาก แล้วก็ถ้าหากว่าในที่สุดแล้วสิ่งที่คุณเลือกทำ มันบางทีก็อาจจะเกิดเหตุการรบวมทั้งควรจะ แม้กระนั้นมันก็จะเปลี่ยนแปลงกระสุนฝังในที่ย้ำเตือนความรู้สึกของคุณอยู่ดี หากแม้ความมานะบากบั่นของหนังที่จะสื่อและเป้าประสงค์นี้ที่นักเขียนสัมผัสได้ มันกลับบางเบา ภาษาพูดก็บอกได้ว่าทำไม่ถึง สล็อตเว็บตรงไม่ผ่านเอเย่นต์ เข้าใจล่ะว่าอุตสาหะจะพรีเซ็นท์ในมุมซอฟต์ๆเคล้าไปกับอารมณ์เบาสมองเนื่องจากเนื้อแท้ด้านในมันไม่ซอฟต์เอาซะเลย แต่ข้าวของเครื่องใช้ที่ใส่มามันกลับเกินจำเป็นจนกระทั่งโชคร้ายเอามากๆและก็ทำให้เวลาของภาพยนตร์ยืดยาว